อิโรฮะ โยโกะโจ・壱弐参横丁

แต่เดิมนั้นที่นี่ถูกสร้างเป็นตลาดค้าขาย “ชั่วคราว” สำหรับเหล่าพ่อค้าในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน ล่วงมาแล้วกว่า 70 ปี ซอยนี้ก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ร้านอาหารและบาร์ในซอยนี้นั้นเล็กจนคุณจะรู้สึกใกล้ชิดเหมือนแทบจะขี่คอเชฟอยู่ระหว่างกินเลยทีเดียว อิโรฮะ โยโกะโจเป็นตรอกคู่ขนานกันสองตรอก ที่จับทุกอย่างยัดเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร เหล้า ร้านชา คลีนิคดัดกระดูก ตลาดปลาจิ๋ว ร้านไวน์ ศูนย์รวมวงร็อคแอนด์โรลแบบย้อนยุค ร้านนาฬิกาแอนติค และอีกมากมาย ส่วนใหญ่เปิดแค่ช่วงบ่ายกับกลางคืนเท่านั้น เป็นที่ที่ต้องมาสัมผัสไม่น้อยกว่าสองครั้งเพื่อประสบการณ์ที่ทั่วถึง

เรามีบทความของร้านใน อิโรฮะ โยโกะโจ เป็นภาษาอังกฤษด้วย:
ชิเอะ (Chie) อิซากายะที่เสิร์ฟอาหารฟิวชั่นจีน-ญี่ปุ่น

บุนกะ โยโกะโจ・文化横丁

บุนกะ โยโกะโจ แปลได้ตรงตัวว่า “ซอยวัฒนธรรม” และมีชื่อเล่นน่ารัก ๆ อย่าง “บุน-โยโกะ” ซอยนี้ถูกตั้งชื่อมาจากโรงภาพยนตร์เก่าที่เคยเป็นศูนย์รวมแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ในช่วงปี 1925  ซอยนี้มีบรรยากาศแตกต่างกันคนละโลกกับ อิโรฮะ โยโกะโจ แม้ว่าจะห่างไปเพียงไม่กี่สิบก้าว ตัวซอยมีรูปร่างเหมือนตัวอักษร h กลับด้าน โดยจะเต็มไปด้วยร้านอาหารและอิซากายะซะส่วนใหญ่ มีแค่บางร้านเท่านั้นที่เปิดช่วงกลางวัน อย่างเช่นร้านซุปแกงกะหรี่ ซาไกยะ และคาเฟ่ London-kan ส่วนที่เหลือของซอยนี้จะสว่างไสวขึ้นหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน

เรามีบทความของร้านใน บุน-โยโกะ เป็นภาษาอังกฤษด้วย:
นันบุ-อิโรฮะ อิซากายะที่เด่นเรื่องอูด้งและสาเก
ฮัสเซน (Hassen) ร้านเกี๊ยวซ่าที่ดังที่สุดในเมืองเซ็นได
ซัน (SUN) ร้านที่จับคู่อาหารตะวันตก กับสาเกของโทโฮคุ

อินาริ โคจิ・稲荷小路

อินาริ โคจิ เป็นชื่อที่มาจากเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง และความอุดมสมบูรณ์ ที่ประทับอยู่ประจำศาลเจ้าอินาริ ที่อยู่ตรงกลางซอย สังเกตได้จากรูปปั้นสุนัขจิ้งจอก และอาคารสีแดงโดดเด่นตัดกับตึกที่รายล้อม ศาลเจ้านี้มีผู้คนมากราบไหว้เพื่อให้แคล้วคลาดจากภัยพิบัติเกี่ยวกับไฟ เพื่อครอบครัวที่สุขภาพแข็งแรง ความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งจะให้อารมณ์ที่แปลกไปจากย่านโยโกะโจที่อื่น ถึงแม้ว่าซอยนี้เป็นกลุ่มของซอยเล็ก ๆ ที่อยู่คู่ขนานกับโคคุบุนโจเลยก็ตาม

ซอยอินาริโคจิอยู่ระหว่างถนนคนเดินอิจิบังโจ และถนนโคคุบุนโจ เชื่อมทั้งสองถนน และถนนใหญ่อย่างถนนฮิโรเสะ และถนนโจเซ็นจิ (Jozenji-dori Avenue) เข้าด้วยกัน ร้านค้าจะเปิดหลังพระอาทิตย์ลับฟ้าเช่นเดียวกับซอยอื่น ๆ แตกต่างตรงที่จะมีขนาดใหญ่ และรับลูกค้าได้มากกว่า แต่ก็มีข้อยกเว้น อย่างเช่นร้านลิ้นวัว Aji Tasuke ที่เป็นจุดเริ่มต้นของชื่อเสียงลิ้นวัวของเมืองเซ็นได ที่เปิดทั้งกลางวัน และกลางคืน โดยรวมแล้วเป็นซอยที่เข้าถึงง่าย และน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว