งาน Reborn-Art Festival ในปีนี้ประกอบไปด้วยงานศิลปะจัดวางขนาดใหญ่ 27 ชิ้น จัดทำขึ้นใหม่สำหรับงานในปี 2021 โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะจากงานครั้งก่อน ๆ ที่นำกลับมาจัดแสดงอีกด้วย การจัดวางงานศิลปะที่งาน Reborn-Art Festival นั้นมีความจำเพาะเจาะจงต่อสถานที่เช่นเดียวกับงานเทศกาลศิลปะร่วมสมัยระดับโลกอย่าง Echigo-Tsumari Art และ Art Setouchi กล่าวคือสถานที่ที่จัดวางนั้นมีความสำคัญเทียบเท่ากับตัวชิ้นงานเลยทีเดียว ไม่ว่าจะตั้งหราท้าทะเลอยู่บนแหลมหรือแอบซ่อนอยู่ด้านในตึกร้าง ศิลปะและสิ่งแวดล้อมได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง สิ่งแวดล้อมนั้นได้มอบความหมายและความลึกซึ้งให้กับงานศิลปะ ในขณะที่ศิลปะได้เติมท่วงทำนองแห่งความสร้างสรรค์ให้กับสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่นงานศิลปะแบบจัดวางประเภทภาพเคลื่อนไหว 'จักจั่น' ของ Swoon ที่เชิญชวนเราให้ได้ตระหนักถึงแก่นแท้ของความเป็นแม่ ณ ใจกลางโรงเรียนประถมที่ถูกทิ้งร้าง หรือจะเป็นงาน You could (be) hugged. ของ Rintaro Fuse ที่ตั้งอยู่ในถ้ำธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยโขดหิน เป็นต้น

พื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยสร้างความรู้สึกของการผจญภัย เป็นทั้งบัตรเชิญสู่เขตหวงห้าม เป็นทั้งข้ออ้างที่จะเดินให้ช้าลงและหยุดสำรวจพื้นที่ที่ปกติจะเดินผ่านไปอย่างเร่งรีบ ก้าวลงมาสู่โรงอาบน้ำเก่าในตัวเมืองอิชิโนมากิ เพื่อจะได้พบกับ La source งานศิลปะของน้ำและแสงโดย HouxoQue เดินทางออกนอกถนนสองเลนในชนบทของคาบสมุทรโอชิกะ ผู้มาเยือนต้องปีนป่ายไปตามทางที่ไม่น่าจะไปได้ เพื่อไปถึง 'ผืนป่าสู่ความสุขนิรันดร์' ซึ่งเป็นงานศิลปะที่จัดวางบนพื้นที่ศาลเจ้าที่ถูกลืม

ด้วยความที่งานครอบคลุมบริเวณขนาดมโหฬาร ทำให้สามารถจัดแสดงงานศิลปะขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย ๆ ทั้งแบบที่มีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้และแบบที่ชวนให้ดื่มด่ำไปกับมัน ทั้งแบบที่เน้นรูปภาพและข้อความ สำหรับงาน forgive โดย Chie Morimoto x WOW x Takeshi Kobayashi ผู้ชมจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในงานเพื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของผืนผ้าใบ แม้แต่งานที่สร้างขึ้นเพื่อการชมเฉย ๆ ยังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ได้จากขนาดที่ใหญ่โตของมัน มีทั้งวัตถุที่ดึงดูดสายตาสำหรับการถ่ายรูปแบบสุดเหวี่ยง และฉากหลังตลก ๆ ที่รอให้เราไปโพสท่าถ่ายรูปเรียกยอดไลค์ในโซเชียลมีเดีย

ผู้มาเยือนมากมายมุ่งหน้าไปยังโซนอาหารซึ่งเป็นตัวชูโรงของงานเทศกาลนี้ โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นอย่างอาหารทะเลอันเลื่องชื่อของชายฝั่งซันริคุ และอาหารป่าของคาบสมุทรโอชิกะ รวมถึงผลิตภัณฑ์การเกษตรท้องถิ่นเช่นกัน โซนอาหารหลักของงานคือ Reborn-Art Dining ซึ่งเป็นร้านอาหารกลางแจ้งเฉพาะกิจที่นำเสนอเมนูอาหารท้องถิ่นแบบยกระดับในบรรยากาศที่เป็นกันเองบนชายฝั่งอ่าวอิชิโนมากิ ผู้มาเยือนสามารถลิ้มรสคอร์สอาหารที่รังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นได้ที่นี่โดยไม่จำเป็นต้องจองหรือใส่เสื้อผ้าทางการ

งาน Reborn-Art Festival นำพาเราไปสู่การผจญภัยแห่งศิลปะและสิ่งแวดล้อมอันอิสระตามแต่จังหวะที่เราถนัด แต่ที่นี่ก็มีบริการทัวร์โดยรถบัสสำหรับผู้ที่ต้องการการเดินทางที่มีแบบแผนมากขึ้นเช่นกัน งานเทศกาลยังมีงานอีเวนท์พิเศษอื่น ๆ อย่างคอนเสิร์ตและเวิร์กชอป Food Adventure สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทัวร์รถบัสและอีเวนท์พิเศษได้ที่เว็บไซต์ของเทศกาล

วิธีการเข้าชมงาน

สามารถซื้อตั๋วเข้าชมงาน Reborn-Art Passport ได้ที่ศูนย์ข้อมูลเทศกาลทุกแห่ง ที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุดด้วยระบบขนส่งสาธารณะคือบูธที่ตั้งอยู่ด้านนอกสถานีอิชิโนมากิ หากซื้อตั๋วแบบ art passport จะสามารถเข้าชมงานได้แบบไม่จำกัดในระยะเวลาเทศกาลทั้งหมด โดยงาน Reborn Art Festival 2021–22 จะประกอบด้วย 2 ช่วงเวลา คือฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ หากซื้อ summer passport จะสามารถเข้าร่วมงานได้เฉพาะในช่วงฤดูร้อน (11 สิงหาคม - 26 กันยายน 2021) และถ้าซื้อพาสปอร์ตในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะสามารถเข้าชมงานในช่วงฤดูใบไม้ผลิได้ (23 เมษายน - 6 มิถุนายน 2022)

เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อของโคโรน่าไวรัส มีขั้นตอนเพิ่มเติมเล็กน้อยในปีนี้เพื่อที่จะเข้าร่วมงาน โดยทุกวันที่เข้าชมงาน จะต้องไปยังศูนย์ข้อมูลงานเทศกาลเพื่อลงทะเบียนชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลติดต่อ จากนั้นจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นไข้ ก่อนจะมอบสายรัดข้อมือที่มีตัวเลขให้ การตรวจวัดอุณหภูมิจะช่วยคัดกรองผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยออกไปและหากมีผู้ที่มางานตรวจพบเชื้อในภายหลัง ทางผู้จัดงานจะใช้ข้อมูลติดต่อที่ลงทะเบียนไว้ในการแจ้งผู้มางานคนอื่น ๆ ให้ทราบ