เครื่องเขินทามามูชิได้รับการลงทะเบียนเป็นงานฝีมือดั้งเดิมของจังหวัดมิยางิในปีค.ศ. 1985 เป็นเรื่องที่ไม่ปกตินักที่งานฝีมืออายุน้อยกว่า 1 ศตวรรษและผลิตโดยบริษัทโทโฮคุโคเกอิ (Tohoku Kogei) เพียงบริษัทเดียวจะได้ชื่อว่าเป็น "งานฝีมือดั้งเดิม" นวัตกรรมในการผลิตเครื่องเขินทามามูชิถูกคิดค้นขึ้นในปีค.ศ. 1932 โดยชื่อ "ทามามูชิ" (แปลตรงตัวได้ว่า "แมลงทับ") นี้มีที่มาจากการที่เฉดสีเหลือบของเครื่องเขินทามามูชิจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามองศาของแสงที่ตกกระทบได้ เหมือนกับปีกของแมลงทับไม่มีผิด กระบวนการผลิตเครื่องเขินทามามูชิได้เริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ. 1935 หลังจากบริษัทโทโฮคุโคเกอิได้ทำการจดสิทธิบัตรกระบวนการผลิตเฉพาะตัว

การผลิตเครื่องเขินทามามูชิเริ่มจากวัสดุที่เป็นฐาน โดยทั่วไปมักจะเป็นไม้หรือเซรามิก ขั้นแรกช่างฝีมือผู้ชำนาญจะเคลือบพื้นผิวของวัสดุด้วยผงเงิน จากนั้นค่อยๆ ทายางรักสีโปร่งแสงที่ผสมแล้วลงไปบาง ๆ ซ้อนทับกันหลายชั้นจนได้ปริมาณที่พอดี ซึ่งสีสันอันล้ำลึกของยางรักจะโดดเด่นขึ้นมาแต่ไม่หนาเกินไปจนไปบดบังความแวววาวจากเงินที่อยู่ข้างใต้ กระบวนการนี้ยากกว่าที่คุณคิด ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น ขนาดและรูปร่างของชิ้นงาน รวมถึงความแตกต่างของผิวสัมผัสของวัสดุฐานแต่ละชนิดแม้เพียงเล็กน้อยทำให้ช่างฝีมือต้องตั้งใจและใส่ใจกับการสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นอย่างเต็มที่ เครื่องเขินทามามูชิแต่ละชิ้นจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลก สุดท้ายลวดลายอันละเอียดลอออย่างลายนกฟีนิกซ์หรือลายดอกไม้จะถูกบรรจงวาดด้วยมือลงไปบนชิ้นงานโดยใช้เทคนิคที่เรียกว่ามาคิเอะ ซึ่งลวดลายเหล่านั้นจะเสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยการโรยผงทองหรือผงสีแวววาวลงไป สิ่งที่ได้ก็คือเครื่องเขินสีแดงหรือสีเขียวแวววาวสวยงามพร้อมลวดลายสีทองที่จะดึงดูดความสนใจให้คุณต้องหันมามอง

แม้ว่าเครื่องเขินทามามูชิจะได้รับการลงทะเบียนเป็นงานฝีมือดั้งเดิม แต่ปรัชญาของบริษัทโทโฮคุโคเกอิคือความล้ำสมัย ยืดหยุ่น และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค นอกจากความสวยงามแล้วประโยชน์ใช้สอยของผลิตภัณฑ์ยังได้รับการเน้นย้ำไม่แพ้กัน ชิ้นงานเครื่องเขินอย่างชาม ถ้วย แจกัน และอื่น ๆ ไม่ควรถูกชื่นชมในฐานะงานศิลปะเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะถูกใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอีกด้วย ในฐานะที่บริษัทรักษาไว้ซึ่งกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม แต่ยังนำไอเดียและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อให้สอดรับกับรสนิมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เช่นการใช้เครื่องสเปรย์แบบมือถือเพื่อเคลือบผงเงินบนวัสดุฐานที่มีพื้นผิวเล็กหรือไม่สม่ำเสมอได้อย่างทั่วถึงก่อนจะนำไปเคลือบยางรักในขั้นต่อไป นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ด้วยการเพิ่มงานประเภทเครื่องเขียนอย่างปากกาและของตกแต่งบ้านชิ้นเล็กอย่างกรอบรูปอีกด้วย ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัทในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2011

“ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลายไปในภัยพิบัติ ผมรู้สึกว่าผมต้องคิดอะไรที่ใหม่และน่าตื่นเต้นให้ออก" ยาซูฮิโระ ซาอูระ เจ้าของบริษัทรุ่นที่ 3 ได้กล่าวไว้ หนึ่งในนวัตกรรมใหม่ของเขาคือการสร้างสรรค์สีใหม่สำหรับเครื่องเขิน นั่นก็คือสีน้ำเงินเข้มลึกล้ำที่ว่ากันว่าเป็นเฉดสีโปรดของมาซามูเนะ ดาเตะ ผู้ตั้งเมืองเซ็นได อีกหนึ่งความสำเร็จด้านเทคนิคคือการบรรลุความท้าทายของการเคลือบยางรักลงบนแก้ว การทำให้ยางรักเกาะติดกับพื้นผิวที่เป็นแก้วได้นับว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากแล้ว แต่ซาอูระทำให้มันยากขึ้นอีกด้วยการรักษาไว้ซึ่งปรัชญาของบริษัทที่มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้จริงอย่างเข้มงวด หลังจากการลองผิดลองถูกมากมาย แก้วไวน์เขินทามามูชิก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา มันได้รับรางวัล Japan Gift Award สำหรับจังหวัดมิยางิในปีค.ศ. 2015 และยังถูกนำไปใช้เป็นของขวัญที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบให้เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำญี่ปุ่น แคโรไลน์ เคนเนดี้ ระหว่างการมาเยือนของเธอ เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของผลิตภัณฑ์อันชาญฉลาดนี้ซึ่งมีชื่อเสียงไกลไปถึงต่างประเทศ